ไล่หนูด้วยน้ำยาสมุนไพร และการป้องกันหนูไม่ให้เข้ามาภายในตัวบ้าน

      การป้องกันหนูไม่ให้เข้ามาภายในตัวบ้าน หรือไม่ให้เข้ามาภายในห้อง จำเป็นที่เราจะต้องรู้ความจริงหลายเรื่องที่เกี่ยวกับธรรมชาติของหนู บางเรื่องก็เป็นสิ่งที่นึกไม่ถึงยกตัวอย่างเช่น ช่องเล็กๆใต้ประตูที่เราคิดว่าเป็นเรื่องปกติปล่อยไว้ก็ได้ หนูมันตัวใหญ่คงเข้ามาภายในห้องไม่ได้อย่างแน่นอน แต่ผิดคาดหนูสามารถรีดตัวเองผ่านช่องเล็กๆใต้ประตูนี้เข้ามาได้ อย่างภาพที่แสดงไว้ข้างบนจะพบว่าช่องว่างใต้ประตูนี้ มีขนาดเพียงเท่าปากกาสามารถสอดผ่านได้เท่านั้น และหนูก็กำลังรีดตัวผ่านช่องว่างใต้ประตูให้เห็น

อ่านเพิ่มเติม...

การกำจัดหนู และเทคนิคการไล่หนู

     ต้องคำนึงถึงสถานที่ๆเราจะเปิดยุทธการไล่หนู เปรียบเหมือนสมรภูมิรบ ชัยภูมิที่ต่างกัน อาคารที่ต่างกัน ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างกัน น้ำยาไล่หนูเปรียบเหมือนอาวุธและกระสุนปืน ยิงสะเปะสะปะก็อย่าหวังจะได้ชัยชนะในสงคราม เรียกว่าน้ำยาไล่หนูก็เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของชัยชนะ เทคนิคการไล่หนูก็เป็นอีกครึ่งหนึ่งของชัยชนะที่เหลือ

อ่านเพิ่มเติม...

ไล่หนู การควบคุมประชากรหนูให้ลดลงด้วยการใช้กล่องพิฆาตหนู

      ถ้าท่านมีโอกาสเดินรอบๆบริษัทห้างร้านเช่นห้างสรรพสินค้า ท่านอาจสังเกตเห็นกล่องสี่เหลี่ยมวางที่พื้นด้านนอกอาคาร วางอยู่เป็นระยะๆ หลายคนมองผ่านไปโดยไม่สนใจ แต่ผู้ที่สนใจอาจสงสัยว่ากล่องที่ว่านี้มันคืออะไร 
        คำตอบคือมันเป็นกล่องที่ใช้เสมือนเป็น"กับดัก"หนู
      กล่องพิฆาตหนู เป็นภูมิปัญญาที่น่าสนใจมากๆ ทำไมต้องเป็นกล่อง ทำไมไม่เป็นกรงดักหนู หรือ ถาดกาวดักหนู เหตุผลหนึ่งก็คือ เป็นกรงเป็นถาดกาว ก็จะดูไม่น่ามอง และรอบๆอาคารก็อาจเลอะเทอะไปด้วยกาว ถ้าบังเอิญมีตัวอะไรสักอย่างไปติดกาวแล้วพยายามดิ้นรนหนี และจะดูแย่ยิ่งขึ้นถ้าลูกค้าเดินไปเหยียบติดถาดกาวดักหนู
     

อ่านเพิ่มเติม...

กาวดักหนู

      การใช้กาวดักหนู เป็นทางเลือกหนึ่งนอกเหนือไปจากการใช้กรงดักหนู, วางยาเบื่อหนู, กับดักหนู, ฉีดพ่นน้ำยาไล่หนู ฯลฯ เพราะการใช้กาวเราสามารถเห็นตัวหนูที่มานอนติดอยู่บนกาว และนำไปกำจัดทิ้งได้อย่างเหมาะสม ไม่เกิดปัญหาหาซากหนูไม่พบจนเกิดกลิ่นเหม็นเน่า

      อย่างไรก็ตามกาวดักหนูใช้ได้ดีกับหนูขนาดเล็ก จำพวกหนูหริ่งบ้าน (Mus musculus), หนูจิ๊ด (Rattus exulans) แต่พอนำกาวดักหนูมาใช้กับหนูท้องขาว (Rattus rattus)ที่โตเต็มวัยและแข็งแรง ก็มักมีปัญหาหนูท้องขาวหลุดจากถาดกาวอยู่บ้างเหมือนกัน

      ส่วนกรณีหนูท่อ (Rattus norvegicus) จากประสบการณ์จริง หนูท่อแถวๆใจกลางกรุง ย่านเศรษฐกิจ ตัวที่โตเต็มวัย ขนาดตัวจะใหญ่โตและมีกล้ามเนื้อแข็งแรงมากเป็นพิเศษ มันว่ายน้ำมาตามท่อระบายน้ำกลางกรุงเป็นระยะทางไกลๆ แล้วไต่ขึ้นลงอาคารชั้น 3 ชั้น 4 วันละหลายรอบ อาหารก็เป็นพวกโปรตีนชั้นดีเยี่ยม จนร่างกายแข็งแกร่งราวกับนักกีฬาโอลิมปิค หนูท่อขึ้นไปอาศัยที่ชั้น 3 ชั้น 4 นั้นผิดวิสัยทั่วไปของหนูท่อ แต่ก็เป็นเรื่องจริงที่หลายคนคาดไม่ถึง เคยมีคนเล่าว่าใช้เท้ากระทืบหนูท่อที่โตเต็มวัย หนูท่อตัวขนาดใหญ่ก็ยังไม่ตายทันที ไม่มีเลือดออกปาก แต่ยังมีชีวิตต่ออีกนับ 10 ชั่วโมง มันแข็งแกร่งขนาดนั้น เรื่องนี้เล่าไปคงไม่มีคนเชื่อ ต้องเจอกับตัวเอง การใช้กาวดักหนูท่อ ถ้าเป็นลูกหนูท่อ หรือหนูท่อที่ยังตัวไม่โตมาก กาวดีๆเหนียวๆก็สามารถที่จะจับตรึงหนูท่อขนาดนี้อยู่ แต่ถ้าเป็นตัวใหญ่เต็มวัย กาวไม่ว่าจะดีแค่ไหนในท้องตลาดก็ยากที่จะจับหนูท่อขนาดใหญ่ได้ พอติดก็มักดิ้นรนหนีไปจนได้ จำเป็นที่คนต้องเข้าช่วยซ้ำให้กาวติดร่างหนูอย่างทั่วถึง บางทีการปล่อยไว้มันดิ้นรนเอาตัวรอดตกลงมาทั้งถาดกาวทั้งหนูเปื้อนพื้นเหนียวไปหมด

การวางถาดกาวสิ่งแรกสุด ต้องคำนึงถึงคุณภาพของกาว    

      ในการลงพื้นที่ พบปัญหาลูกค้าซื้อกาวจากท้องตลาดมาดักหนู แต่ขอไม่บอกว่าซื้อจากที่ไหน ราคาแพงมากทีเดียว หนูท้องขาววิ่งผ่านโดยไม่ติดกาวแต่ทิ้งรอยเท้าไว้ให้เจ็บใจเล่น ก็ไม่เข้าใจว่าเป็นกาวหมดอายุ หรือเป็นกาวไม่ผ่าน QC กันแน่ ยังไงถ้าจะซื้อกาวดักหนูก็ดูฉลากบอกวันเดือนปีที่ผลิตถ้าเขาจะกรุณาเขียนไว้ให้ทราบ หรือถ้าเป็นไปได้ลองๆตรวจดูสภาพกาวก่อนซื้อว่าเอานิ้วแตะแล้วมันเหนียวยืดติดนิ้วขึ้นมาหรือไม่ ถ้าผู้ผลิตจะกรุณายอมให้ตรวจดูก่อนได้
      รูปข้างล่างนี้ เป็นหนูท่อตัวเต็มวัย ติดกาวที่มีคุณภาพดี แต่ถึงอย่างนั้น กว่าหนูตัวนี้จะติดแบบที่เห็นในภาพ คนก็ต้องลงไปช่วยจัดการอีกแรง จึงจะได้ผล ภาพถ่ายขณะหนูเริ่มทำตัวแฟบลงแล้ว ในสภาพปกติตอนหนูยังวิ่งๆตัวจะพอง ดูตัวใหญ่กว่านี้มาก

       

      การวางถาดกาว เราจะใส่อาหารที่หนูชอบไว้กลางถาด ถามว่าอาหารอะไรที่หนูชอบ คำตอบคือมันแล้วแต่กรณี อย่างเช่น หนูท่อแถวๆแหล่งเศรษฐกิจใจกลางกรุงเทพ ใช้ลูกอมรสน้ำผึ้งเป็นอาหารล่อ ปรากฏว่าหนูท่อพวกนี้ไม่เคยกิน พากันแห่มากินลูกอม จนติดถาดกาวอย่างง่ายดาย อาหารดีๆ ของไฮโซแถวนั้นมีเยอะ หนูพวกนี้กินจนเบื่อ จึงอยากลิ้มลองอาหารแบบโลโซบ้าง หนูบางตัวชอบกินแครกเกอร์แข็งๆแบบมีใส้ครีม  แต่หนูที่มีบุญวาสนาน้อยส่วนใหญ่จะชอบกินพวกหัวปลาทู ปลาหมึกปิ้ง ตับไก่ปิ้ง อะไรทำนองนี้

      ตำแหน่งที่วางถาดกาว ควรวางกาวในทางเดินที่หนูใช้เดินผ่านบ่อยๆ บางทีมันเดินผ่านบ่อยจนผนังตรงนั้นเปลี่ยนเป็นสีสกปรกไปเลย ถ้าปิดไฟมืด ห้องมืดสนิท ไม่มีแสงสลัว ก็ควรวางถาดกาวตามริมผนังห้อง แต่ถ้ามีกลิ่นปัสสาวะหนู พบมูลหนู การวางกาวก็ควรเปลี่ยนไปไว้วางแถวๆกลิ่นนั้น  อย่างไรก็ตามกลิ่นอาหารที่ใช้ล่อหนูถ้ามีกลิ่นรุนแรงอย่างที่มันชอบ ก็น่าจะช่วยล่อหนูได้มาก

ปัญหาหนูตายบนฝ้า

      มีบ้านหลังหนึ่ง ความจริงบ้านหลังนี้แทบไม่มีปัญหาเรื่องหนูรบกวน อาจเป็นเพราะใกล้ๆกันเป็นร้านก๋วยเตี๋ยวที่มีกลิ่นคาวของเนื้อสัตว์ จำพวกเนื้อตุ๋น หมูตุ๋น ฝูงหนูจึงเลือกที่จะไปชุมนุมอยู่ที่ร้านก๋วยเตี๋ยวมากกว่า วันดีคืนดีก็มีงูเห่าตัวไม่ใหญ่นัก เลื้อยอย่างเร่งรีบตั้งอกตั้งใจผ่านบ้านหลังต่างๆ  เป้าหมายของมันคือมุ่งตรงไปที่ร้านก๋วยเตี๋ยวอย่างเดียว เข้าใจว่าเป็นเพราะเรื่องกลิ่นที่ดึงดูดงูอีกเช่นกัน เพียงแต่ไม่แน่ชัดว่าเป็นกลิ่นหนูหรือกลิ่นอาหารพวกเนื้อตุ๋น หมูตุ๋น กันแน่ ต่อมาเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวจึงได้พบว่า เมื่อเปิดฝ้าขึ้นดู ไม่ใช่งูเห่าแค่ตัวเดียว แต่มีงูเห่าซ่อนอยู่บนฝ้าอยู่ถึง 4 ตัวบรรดาสมาชิกในบ้านจึงช่วยกันไล่ ช่วยกันรุมตี

      กลับเข้ามาเรื่องบ้านหลังแรกที่ว่าแทบไม่มีปัญหาเรื่องหนู บ้านหลังนี้ ห้องชั้นล่างกว้างกว่า 10 เมตร ลึกคือยาวกว่า 20 เมตร สูงถึงฝ้าเพดานประมาณ 3.50 เมตร เรียกว่าห้องกว้างใหญ่และสูงมาก เพดานใช้ฝ้าแบบ T-Bar เจ้าของบ้านเล่าว่า นานๆครั้งจะได้ยินเสียงหนูวิ่งบนฝ้าเพียงแค่ ตัว-สองตัว และไม่เคยปรากฏว่ามีหนูลงมาวิ่งข้างล่างให้เห็นแต่อย่างใด จึงไม่เป็นปัญหาให้ต้องคิดไล่หนู แต่แล้ววันหนึ่งเมื่อ เปิดพัดลมดูดอากาศ เตรียมพร้อมก่อนจะเปิดแอร์ ก็ได้กลิ่นเหม็นเน่าอย่างรุนแรง หาที่มาของกลิ่นเท่าไรๆก็ไม่พบ หาเกือบทั้งวัน จึงเดาว่าจุดกำเนิดกลิ่นเน่าเหม็น ถ้าไม่อยู่บนฝ้า ก็น่าจะมาจากใต้บ้าน โดยผ่านรอยแยกเล็กๆของพื้น

      วันต่อมากลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมากขึ้น เมื่อเปิดประตูบ้าน พบว่ามีแมลงวันตัวใหญ่ว่าแมลงวันบ้าน มันคือ แมลงวันหลังลาย  (Flesh fly) บินตามกลิ่นเข้ามาเพื่อหาซากเน่าเปื่อยเป็นที่วางไข่ ซึ่งปกติแล้วตามบ้านเรือนในตัวเมืองจะไม่ค่อยได้พบเห็นแมลงวันชนิดนี้ และเมื่อฝนตก ความชื้นในห้องสูงมากขึ้น ผสานไปด้วยกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงของซากหนู  คนในบ้านก็พากันเกิดอุปาทานหมู่คิดไปว่า พื้นห้องเหนียวและเปียกชื้นไปด้วยน้ำเหลือง 
      เวลาผ่านไป 2 วัน ก็เริ่มมั่นใจว่ามีหนูตายอยู่บนฝ้าแน่นอน ปัญหาคือฝ้าแบบ T-Bar แม้มันจะถูกออกแบบมาเพื่อให้บำรุงรักษาซ่อมแซมงานต่างๆเหนือช่องฝ้าได้ง่าย แต่สำหรับคนในบ้านที่ไม่ใช่ช่าง การเปิดฝ้า T-Bar กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เพราะไม่มีบันไดที่สูงและมั่นคงพอที่จะเอาศีรษะโผล่ขึ้นไปดูเหนือฝ้า ห้องก็กว้างใหญ่มาก ไม่รู้จะเดาสุ่มเปิดดูตรงไหน ลองๆยืนบนเก้าอี้เอามือลองดันๆเปิดฝ้า ฝุ่นละออง รวมทั้งไรฝุ่นร่วงลงมาใส่ศีรษะเข้าหูเข้าตา ทำให้เกิดการคันไปทั่วตัว ก็ไม่รู้ว่าคนคิดค้นฝ้าแบบ T-Bar คิดประดิษฐ์ขึ้นมาได้อย่างไร ฝ้าประเภทนี้เมื่อผ่านไปหลายปีมีฝุ่นละอองสะสมมากขึ้น จะไม่เหมาะกับคนที่เป็นภูมิแพ้ เพราะแผ่นฝ้ามักปิดได้ไม่สนิท เกิดมีช่องเล็กๆ หรือวางไม่ลงสนิทเผยอตามขอบฝ้า เวลาลมพัดจากนอกบ้านแรงๆพัดจนแผ่นฝ้าเผยอขึ้นก็มี ถ้าทิศทางลมพัดสอดผ่านช่องว่างหลังคา ก็จะพัดเอาฝุ่นละอองรวมทั้งตัวไรตกลงมาใส่ที่นอน ตกใส่อาหารที่วางเอาไว้ เวลากลางคืนนอนบนที่นอนเกิดอาการคันเกาตลอดคืนจนนอนไม่หลับ บ้านยิ่งเก่า อาการคันยิ่งรุนแรง ย้ายบ้านไปนอนที่อื่นอาการจะหายไป

      ปัญหาหนูตายบนฝ้า ถ้าไม่เก็บซากหนูออกไปทิ้ง ก็จะต้องอดทน 4 วัน ไม่เกิน 5 วัน กลิ่นเน่าเหม็นจึงจะจางลง จนใกล้สภาพปกติ นี่เป็นสูตรตายตัว จำเอาไว้ 4 วัน ไม่เกิน 5 วัน อดทนเอา แน่นอนว่าบนฝ้าที่มีซากหนูที่เริ่มจะสลายตัว ถ้ามีแมลงหวี่ แมลงวันไปวางไข่บนซากหนู ก็จะมีหนอนตกลงมาจากฝ้าเป็นรางวัลชีวิต เท่าที่ทราบเจ้าของบ้านหลังนี้เลือกเอาวิธีไม่เก็บซากหนู แต่ใช้วิธีซื้อถ่านไม้สำหรับหุงข้าวมา 1 ถุงใหญ่ขว้างถ่านไม้สะเปะสะปะไปบนฝ้าจนหมดถุง เผื่อว่าถ่านไม้จะช่วยดูดซับกลิ่นเน่าของหนูได้บ้าง ประมาณ 1 สัปดาห์ต่อมาจึงเห็นตำแหน่งที่แน่ชัดว่าหนูตายอยู่ตรงไหน เพราะ ฝ้า T-Bar แสนสวย มีคราบน้ำเหลืองของหนูซึมลงมาให้เห็น ดังภาพที่นำมาแสดงข้างล่างนี้ จะเห็นเป็นดวงๆสีน้ำตาล 2 ดวง ใกล้หลอดไฟ เหนือโต๊ะกินข้าวพอดิบพอดี

ทำไมหนูจึงมาตายบนฝ้า?

สาเหตุมีได้หลายอย่าง
1)  หนูหมดอายุขัยแก่ตาย ปกติหนูบ้านจะมีอายุขัยไม่เกิน 2 ปี เมื่อมีเกิด ก็ต้องมีแก่ตาย เป็นธรรมดา
2)  หนูอ่อนแอ  หรือหนูป่วยตายก่อนอายุขัย โรคภัยไข้เจ็บ กัดกัน ฆ่ากันเพราะแย่งที่อยู่อาศัย-แย่งอาหาร
3)  หนูถูกวางยาเบื่อจากที่อื่น แต่มาตายบนฝ้าบ้านเรา
4)  หนูถูกไฟช๊อตตาย
5) ... อื่นๆ อีกมากมายหลายสาเหตุ

สรุปก็คือ แม้บนฝ้าจะได้ยินเสียงหนูวิ่งเพียงแค่ 1-2 ตัว ก็ควรหาทางกำจัดหรือไล่มันไป จะทำด้วยการวางกาว ใช้กรงดัก หรือพ่นน้ำยาไล่หนู ทำก่อนที่ปัญหาหนูตายบนฝ้าจะเกิดขึ้น

ด้วยความปรารถนาดี.

 

บทความ อื่นๆ ...