การกำจัดหนู และเทคนิคการไล่หนู

     ต้องคำนึงถึงสถานที่ๆเราจะเปิดยุทธการไล่หนู เปรียบเหมือนสมรภูมิรบ ชัยภูมิที่ต่างกัน อาคารที่ต่างกัน ก็ต้องใช้วิธีที่ต่างกัน น้ำยาไล่หนูเปรียบเหมือนอาวุธและกระสุนปืน ยิงสะเปะสะปะก็อย่าหวังจะได้ชัยชนะในสงคราม เรียกว่าน้ำยาไล่หนูก็เป็นเพียงครึ่งหนึ่งของชัยชนะ เทคนิคการไล่หนูก็เป็นอีกครึ่งหนึ่งของชัยชนะที่เหลือ

1) อาคารขนาดใหญ่ หรือสถานที่เปิด ที่มีช่องทางเข้าออกของหนูได้มากมายหลายทาง

     อาคารหรือสถานที่เปิดแบบนี้ ความสำเร็จหวังผลได้เพียง 80 % เพราะแม้จะใช้วิธีวางกาวหรือวางยาเบื่อกำจัดให้สิ้นซาก ไม่นานก็จะมีหนูรุ่นใหม่จากที่อื่นเพิ่มเข้ามาอีกไม่ขาดสาย แม้ใช้เทคนิคการใช้น้ำยาสมุนไพรไล่หนู แต่ก็จะมีบางบริเวณที่ไม่สามารถใช้น้ำยาไล่ได้ หนูก็จะหนีไปรวมตัวกันอยู่บริเวณนั้น ปริมาณหนูที่หนีไปรวมตัวกันอย่างหนาแน่นในพื้นที่จำกัด ลักษณะการทำลายล้างของหนูบริเวณนั้นจึงรุนแรง สร้างความตระหนกตกใจให้กับพวกเรา นี่มันคือการแก้แค้นของหนู นี่คือการเอาคืนของหนูที่ตอบแทนอย่างสาสมอย่างนั้นหรือ? เราเอาความคิดมุมมองของมนุษย์ไปตัดสินพฤติกรรมของสัตว์ บางทีเหตุผลอาจมีเพียงแค่ว่าหนูที่ถูกไล่ไปรวมตัวกันในที่จำกัด หนูทุกตัวต้องแทะเพื่อลับฟันของมัน สายไฟฟ้า ท่อ ไม้ สบู่ อุปกรณ์พลาสติกแปรงสีฟัน ฯลฯ ถูกพวกมันแทะทำลาย บ้างก็คาบไป บริเวณนั้นจึงมีการทำลายสูงมาก แต่ถ้ามองในแง่ดี เมื่อมันมารวมตัวกัน เจ้าของอาคารบางท่านก็อนุญาตให้ดักจับหนูเฉพาะบริเวณนั้นๆไปปล่อยได้ ซึ่งก็จะทำได้ง่าย ลดประชากรหนูได้เร็ว

     อาคารขนาดใหญ่ที่เป็นอาคารเปิด ถ้าจะกำจัดหนูแบบยั่งยืนก็คงจะต้องใช้ทุนมหาศาล ค้นหาและปิดทุกช่องทาง ไม่ให้หนูจากภายนอกเล็ดลอดเข้ามาได้ แต่ในชีวิตจริง อาคารหรือสถานที่แบบนี้แทบไม่สามารถทำอย่างที่ว่านี้ได้เลย

 2) อาคารขนาดเล็กเช่นบ้าน หรืออาคารที่ไม่ค่อยมีช่องทางเข้ามาของหนู

     การควบคุมประชากรหนู จะง่ายขึ้น โอกาสความสำเร็จหวังผลได้มากกว่า 95 %

     ยกตัวอย่าง ฝ่ายปฏิบัติการรายหนึ่งของบริษัทพีเอ็มจีฯย้ายไปเช่าอยู่คอนโดชั้นล่างสุด เป็นคอนโดใหม่ คนเข้าพักอาศัยน้อย สถานที่รายล้อมไปด้วย ป่ากก ต้นกก เพิ่งรู้ว่ามีหนูจำนวนมหาศาลรอบุกเข้าโจมตีห้องผู้เข้าอาศัยรายใหม่ๆ ฝ่ายปฏิบัติการรายนี้เล่าว่ามาอยู่วันแรกๆก็เงียบดี แต่พอผ่านไปได้สัก 7 วัน ก็ได้ยินเสียงกุกกัก ในส่วนของห้องครัว มองผ่านแสงสลัวเห็นหนูขนาดใหญ่เดินชนถังเปล่าพลาสติกใส เพราะสายตาของหนูมองเห็นไม่ชัดในที่มืดสลัว รุ่งขึ้นเห็นมูลหนูเป็นก้อนขนาดยาวประมาณ 1.5 เซ็นติเมตร ข้างซิงค์ล้างจาน  หนูปรากฎตัวให้เห็น 1 ตัวแสดงว่าน่าจะมีอีกไม่ต่ำกว่า 20-30 ตัว พิจารณาพบว่าหนูไต่วิ่งมาตามกำแพงเตี้ยๆ แล้วเข้ามาในครัว จำเป็นที่จะต้องหยุดยั้งมันให้ได้ ก่อนที่จะเข้ามาถึงห้องนอน และที่สำคัญเกรงว่าจะมีงูเลื้อยพลัดหลงตามล่าพวกมันเข้ามาด้วย ... งูคือสิ่งที่น่ากลัวกว่าหนู !!!

      ยุทธการไล่หนูจึงเกิดขึ้น วันแรกที่ใช้สมุนไพรไล่หนู ทาไว้เฉพาะบนกำแพงความยาว 2 - 3 เมตร ราวตี1 ได้ยินเสียงร้องจิ๊ดจ๊าดของหนู 1 ครั้ง แล้วทุกอย่างก็สงบเงียบจนรุ่งเช้า ไม่มีมูลหนูปรากฎให้เห็น

      ทุกอย่างเงียบสงบไปประมาณอีก 7 วัน หนูหายเงียบ นึกว่าสงครามยุติแล้ว มันคงเข็ด ... แต่ที่ไหนได้...

      วันที่ 8 วันที่ 9 ....และวันถัดๆไป หนูบุกเข้ามาโจมตีทุกวัน ไม่รู้ว่าเป็นหนูตัวเดิม หรือ หนูหน้าใหม่ ได้ยินเสียงร้องจิ๊ดจ๊าดของหนู 1 ครั้งเหมือนเดิม เพราะเจอน้ำยาสมุนไพรไล่หนู แล้วทุกอย่างก็สงบลงจนเช้า ที่ต่างกันคือหนูเริ่มเปลี่ยนเวลาบุกจากเวลาตี 1 มาเป็นบุกโจมตีตั้งแต่ 3 ทุ่ม หนูข้าศึกยังรุกล้ำเข้ามาในห้องครัวไม่ได้ และไม่ปรากฎมูลหนูให้เห็น

      วันที่ 15 คืนนี้แปลกประหลาดมากที่สุด ราวตี 1 คราวนี้ไม่มีเสียงหนูร้องจื๊ดจ๊าดอีก แต่เป็นเสียงคราง เสียงหนูวิ่งชน และกระโดดลงไป จนฝ่ายปฏิบัติการของบริษัทเราตกใจตื่น  เมื่อเปิดไฟออกไปดู สงสัยว่าทำไมคืนนี้จึงมีเสียงครางและบางตัวส่งเสียงเหมือนเสียงขู่ หรือว่าจะเป็นตัวจ่าฝูงที่ทรหดและเข้มแข็ง ทำเป็นกัดฟันรักษามาดให้ดูดีเอาไว้ จะร้องวิ๊ดว๊ายก็อายหนูสาวๆ ว่ายังงั้นเถอะ ... ก็คิดไปตามประสามนุษย์ แต่ที่แน่ๆคืนนี้พวกมันมากันหลายตัว แล้วทุกอย่างก็เงียบสงบไปจนรุ่งเช้า

      ตอนเช้าตรวจสมรภูมิรบ พบว่าพวกมันเข้าประชิดชายแดนได้สำเร็จ ทิ้งมูลไว้ 1 ก้อนไว้บนกำแพง ทำไมมันจึงมีเวลาถ่ายมูลไว้?  ทั้งๆที่ได้ยินชัดเจนว่าพวกมันวิ่ง วิ่งไปถ่ายมูลไปได้อย่างนั้นหรือ? ก็ยากจะคาดเดา ข้างล่างนี้เป็นรูปมูลหนูที่ทิ้งเอาไว้ ถ่ายมายืนยัน

    

     วันที่ 16 เปลี่ยนน้ำยาสมุนไพรของบริษัทเป็นชนิดใหม่ ราว 4 ทุ่มได้ยินเสียงครางของหนูเบาๆ แต่ทั้งคืนไม่มีเสียงหนูวิ่ง ไม่พบมูลหนู

     วันที่ 17 ทุกอย่างเงียบสงบ จนผิดปกติ

     ...   ...

     แต่การบุกเข้าโจมตีของหนูคงยังต้องมีต่อไป . . . ไม่มีวันสิ้นสุด เพราะจำนวนประชากรหนูรอบๆคอนโดก็ยังมีอีกมหาศาล รุ่นนี้ไป รุ่นใหม่มา

     นี่คือตัวอย่างการควบคุมประชากรหนูในห้องที่ไม่กว้างใหญ่ หรือสถานที่ไม่เปิดมากเกินไป คือใช้น้ำยาสมุนไพรฉีดพ่นเฉพาะบนกำแพงตามแนวยาว 2 - 3 เมตร ก็สามารถป้องกันหนูบุกรุกเข้ามาได้เกือบ 100 %

     

     ในที่สุดก็เห็นแล้วตัวหนึ่ง ตัวใหญ่มากเลย พรรคพวกมันยังมีอีกเพียบ เจอแสงไฟแฟลช ดวงตาเป็นประกายเชียว พวกมันยังวนเวียนอยู่นอกห้องครัว ไม่กล้าไต่ผ่านกำแพงเข้ามา เราจะใช้น้ำยาสมุนไพรต้านทานมันไว้นอกห้องครัวสักหลายๆวัน หวังว่าความหิวโหยอาจทำให้พวกมันเปลี่ยนใจ ไปหากินและสิงสถิตอยู่ที่อื่นแทน.