การไล่หนูที่เข้ามาอาศัยหลบอยู่ในห้องเครื่องรถยนต์

       ได้ยินปัญหาเรื่องหนูเข้าไปอาศัยหลบอยู่ในห้องเครื่องของรถยนต์มานานแล้ว ซึ่งก็มีผู้แสดงความคิดเห็นในการแก้ปัญหาที่แตกต่างกันไป  บางครั้งความเห็นก็พิสดารอย่างคาดไม่ถึง บางคนก็แนะนำให้เอาแมวมาเลี้ยงไว้ใกล้ๆรถ แต่ก็มีผู้คัดค้านว่าแมวชอบมาตะกุยสีรถจนเป็นรอย บ้างก็ว่าให้เลี้ยงสุนัข บางท่านก็ว่าเอาคราบงูมาว่าในห้องเครื่อง บางท่านก็ใช้น้ำยาเคมีบางอย่างเผารมห้องเครื่อง บ้างก็แนะเทคนิควางหนามแหลมๆในห้องเครื่อง การใช้ไฟสว่างเปิดส่องในห้องเครื่อง ใช้คลื่นเสียง ซึ่งไม่ได้เห็นผลทันทีต้องรอผล จนอาจเลยอายุประกันคืนเครื่อง บางท่านก็ใช้น้ำยาไล่หนูที่มีวางขายมาฉีดพ่นในห้องเครื่อง ความเห็นก็แตกต่างกันไปบางคนว่าได้ผลเพียงระยะแรกๆต่อไปก็ไม่ได้ผล ซึ่งเป็นธรรมดา ทั้งหมดที่ว่ามานี้ เหตุปัจจัยมันต่างกันผลก็ย่อมต่างกัน หนูก็มีหลายชนิด หลายสกุล หลายขนาด นั่นย่อมกระทบถึงผลสำเร็จที่แตกต่างกันด้วย โดนเฉพาะอย่างยิ่งเรากำลังถูกบุกรุกโดยหนูซึ่งเป็นสัตว์ที่ฉลาดเป็นอันดับ 10 ของสัตว์ในโลก

      

       ความเป็นจริงแล้วเคยมีการตั้งคำถามกันว่า น้ำยาไล่หนูมีความจำเป็นจะต้องใช้มันหรือไม่ ทำไมการฆ่าด้วยยาเบื่อหนู หรือการวางกาวดักหนู ก็น่าจะเพียงพอแล้ว เพราะสามารถกำจัดที่ต้นเหตุของปัญหาได้อย่างชะงัดที่สุดแล้ว แต่เมื่อระดมความคิดก็ได้คำตอบสรุปว่า น้ำยาไล่หนูยังคงมีความจำเป็น โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการป้องกันหนูเข้ามาหลบซ่อนทำรังในห้องเครื่องรถยนต์

       ทางบริษัทพีเอ็มจีฯ อาจโชคดีที่ไม่เคยพบหนูที่เข้ามากัดท่อกัดสายไฟในห้องเครื่องรถยนต์ แต่เคยมีพนักงานรายหนึ่งมาทดลองนำน้ำยาไล่หนูบางสูตรไปฉีดไปเช็ดในห้องเครื่องรถปิคอัพของเพื่อนที่หนูเข้าไปทำรังหลบซ่อนอยู่ ซึ่งได้รับเสียงตอบรับมาว่าสามารถป้องกันหนูได้เป็นเดือน แต่นั่นยังเป็นผลการทดลองในกรณีเดียว มันอาจเป็นหนูขนาดเล็ก หรืออาจเป็นพวกหนูที่อ่อนแอก็เป็นได้

       จนกระทั่งเมื่อเร็วๆนี้ฝ่ายบริหารของบริษัทก็ได้เจอปัญหานี้เข้ากับตนเอง รถส่วนตัวที่จอดมานานเป็นปีๆไม่เคยมีปัญหาเรื่องหนูเข้าห้องเครื่องรถ แต่เมื่อจำเป็นต้องนำรถไปเข้าศูนย์บริการและต้องทิ้งเอาไว้ให้ซ่อมที่ศูนย์ 2-3 วัน จึงได้ขอยืมรถฮอนด้า CRV มาใช้ชั่วคราว นำมาจอดไว้ที่เดิมเพียงคินแรกก็เจอดีเข้าจนได้ เพราะแม่บ้านโทรมาแจ้งว่าตอนเช้าขณะที่สตาร์ทรถราวๆครึ่งนาที ทุกอย่างก็ปกติแต่พอรถเริ่มเคลื่อนตัวออก ก็มองเห็นว่ามีหนูขนาดใหญ่วิ่งออกมาจากใต้ท้องรถบริเวณห้องเครื่อง วิ่งอย่างรวดเร็วเข้าไปในบ้านที่อยู่ติดกัน โดยแม่บ้านโทรมาเล่าว่าเป็นหนูสีน้ำตาล ไม่ได้สีดำ ก็ยิ่งสร้างความแปลกใจ อาจเป็นเพราะแม่บ้านมองผ่านประตูกระจกกรองแสง และแสงในยามเช้า จึงทำให้มองเห็นสีของหนูผิดเพี้ยนไปได้ คำถามคือนำรถ CRV มาจอดแค่วันแรกคืนแรกก็พบว่ามีหนูแล้ว ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมี เป็นไปได้ว่าในห้องเครื่องจะมีกลิ่นหนูติดมา เพราะรถคันนี้เคยจอดอยู่ที่อื่นมานานและมีประวัติเคยพบหนูเข้าห้องเครื่อง เมื่อมาจอดที่ใหม่หนูบริเวณนี้อาจได้กลิ่นจึงเข้าไปในห้องเครื่อง

       ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เมื่อใช้น้ำยาไล่หนูฉีดพ่นและทาในห้องเครื่อง วันต่อๆมาก็ไม่พบว่ามีหนูเข้า-ออกห้องเครื่องรถยนต์คันนี้อีกเลย จนกระทั่งครบกำหนดเอาไปคืนเจ้าของรถที่แท้จริง